อ่านก่อน! ถ้าต้องการเลือกซื้อ กระบอกลมนิวเมติก

กระบอกลม นิวเมติก

หลักการทำงานของกระบอกสูบนิวเมติก: อันที่จริงแล้วลักษณะการทำงานของกระบอกลม นิวเมติกนั้นจะดำเนินการในลักษณะใช้ความดันของแก๊สในแนวทางการทำงานแบบเชิงเส้น ซึ่งคำว่า นิวเมติก นั้นจะเริ่มมาจากภาษากรีกโบราณ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการดำเนินงานของวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องการอากาศสำหรับในการทำงาน โดยในอดีตนั้น ราคากระบอกสูบ นิวเมติก จะแพงออกจะแพง แต่ว่าก็ยังเป็นที่ชื่นชอบมากที่จะนำกระบอกสูบนิวเมติกดัตระหนี่ล่าวมาใช้งานในระบบนิวเมติกส์ในอุตสาหกรรมด้านต่างๆโดยอากาศนั้นเราสามารถนำไปบีบอัดหรือเพิ่มเติมระบบลมให้กับระบบนิวเมติกได้ และไม่เกิดอันตรายเหมือนกับแก๊สอื่นๆพวกเราบางทีอาจใช้แก๊สเฉื่อยบางจำพวกมาใช้ทดแทนกันได้ แต่ว่าจุดบกพร่องคือพวกเราจะต้องสั่งซื้อหรือผลิตแก๊สเหล่านั้นให้ได้คุณภาพก่อนบีบอัดลงในถังเท่านั้น รวมทั้งการอัดอากาศลงนถังนี้ออกจะที่ทำเป็นอย่างจำกัดจำเขี่ยในหลายๆส่วน

รูปแบบของกระบอกลมนิวเมติก: Pneumatic Cylinder ส่วนใหญ่นั้นจะประกอบไปด้วยห้องสำหรับเก็บและก็จ่ายแรงกดดันอากาศ ตอนนี้ได้มีการนำ Pneumatic Cylinder มาใช้สำหรับจ่ายแรงกดดันอากาศเข้าระบบนิวเมติก และให้ประสิทธิการทำงานที่ดีเยี่ยม การนำกระบอกลมนิวเมติกมาใช้งานจำนวนมากจะขึ้นกับชนิดของงาน เป็นหลัก แต่ว่าถึงอย่างไรก็แล้วแต่แล้วผลของการดำเนินงานของกระบอกสูบนิวเมติกนี้ก็ได้ผลลัพธ์ที่เหมือนหรือใกล้เคียงด้วยกันทั้งมวลและก็ในตลาดของระบบนิวเมติกในขณะนี้เราจะพบว่ามีกระบอกลมหลายประเภทให้พวกเราได้เลือกซื้อมาใช้งานกัน โดยแต่ละตัวก็ให้แรงดันอากาศที่ไม่เหมือนกัน กระบอกสูบ นิวเมติกตัวแรกที่เป็นที่ชื่นชอบใช้งานเดี๋ยวนี้คือ Pneumatic Cylinder แบบทางเดียว(เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Single-acting cylinder) โดยกระบอกลมแบบทางเดียวนี้จะปฏิบัติภารกิจบีบอัดอากาศผ่านวาล์วเข้าไปที่ด้านหลังของกระบอกลม โดยแรงกดดันอากาศที่มีแรงดันสูงนี้จะเขยื้อนหรือพุ่งออกเร็วมาก ได้ผลให้โหลดงานได้รับแรงดันอากาศจาก Pneumatic Cylinder ที่แรงมากนั่นเอง ซึ่งขึ้นกับด้านหน้าของ Pneumatic Cylinder แบบทางเดียวและก็ขนาดของกระบอกสูบนิวเมติกนั้นๆด้วยเช่นกัน

กระบอกลม แบบทางเดียว

แรงกดดันอากาศบนหน้าลูกสูบที่บีบอัดได้นี้จะหาทางออกที่ง่ายที่สุดเพื่อปล่อยออกและเป็นแรงกดดันที่สูงมากมาย และพื้นที่ผิวหน้าลูกสูบหรือขนาดของรูเล็กๆของลูกสูบจะมีผลต่อความรู้ความเข้าใจสำหรับในการหมุนของลูกสูบให้ทำงานได้อย่างไม่ยากเย็นเพิ่มขึ้น ยิ่งขนาดของรูหดเท่าไรก็จะทำให้อากาศเขยื้อนได้ง่ายมากยิ่งขึ้นจนน้ำหนักของกระบอกสูบ นิวเมติกเองก็นับได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับเพื่อการเคลื่อนของแรงดันอากาศอีกด้วย ซึ่งจากการทดลองนำกระบอกลม นิวเมติกแบบทางเดียวไปใช้งานพบว่า กระบอกสูบนิวเมติกที่มีขนาดกระบอกที่ใหญ่กว่า จะให้แรงกดดันอากาศที่สูงกว่ากระบอกลม นิวเมติกที่มีขนาดของกระบอกสูบ นิวเมติกเล็กกว่า และการเคลื่อนที่ของอากาศที่อยู่ในกระบอกสูบ นิวเมติกที่มีขนาดใหญ่กว่าจะเขยื้อนได้ง่ายแล้วก็เร็วกว่าอีกด้วย แต่ว่าจุดอ่อนคือน้ำหนักของกระบอกสูบนิวเมติก

ไม่เพียงเท่านั้น กระบอกสูบ นิวเมติกที่มีรูปทรงกระบอกแบบทางเดียวนี้ยังสามารถปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงด้วยกลไกสปริงที่บีบอัดแทรกระหว่างส่วนท้ายของถังกับด้านข้างของลูกสูบที่อยู่ตรงกันข้ามกับที่ช่องอากาศที่ไว้สำหรับอัดอากาศ ระบบนี้ดำเนินการในลักษณะก็จะคล้ายกับหรือใกล้เคียงกับค่ามาตรฐาน แต่ว่าหลังจากปล่อยอากาศอัดไปแล้ว ลูกสูบจะถูกบังคับให้กลับสู่ตำแหน่งเดิมที่ปลายกระบอกโดยสปริง ระบบนี้ใช้เพื่อการเขยื้อนแบบเส้นตรงที่เกี่ยวกับการบรรทุกหนักและก็อยากใช้แรงอัดอากาศมากกว่าธรรมดา

กระบอกลม นิวเมติก แบบสองทาง

กระบอกสูบ นิวเมติกแบบสองทาง(เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Double-Acting Air Cylinder): Pneumatic Cylinder อีกแบบหนึ่งที่ถูกประยุกต์ใช้จนถึงได้รับความนิยมไม่แพ้กันอีกแบบก็คือ กระบอกลม นิวเมติกแบบสองทางนั่นเอง โดย Pneumatic Cylinder แบบสองทางนี้จะดำเนินงานโดยใช้วาล์วสำหรับในการฉีดหรือพ่นแรงกดดันอากาศแบบสองทางในทิศทางตรงกันข้ามกัน โดบจะดำเนินการสลับกันคือ Pneumatic Cylinder ด้านหนึ่งใช้สำหรับบีบแรงกดดันอากาศออก และก็อีกทางเอาไว้สำหรับสร้างแรงกดดันสำหรับการเริ่มต้นการทำงานให้กับ Air Cylinder ใหม่อีกที กระบอกลม นิวเมติกแบบสองทางนี้จะนิยมให้กับโหลดที่อยากได้แรงกดดันอากาศมากยิ่งกว่าปรกติ แต่ว่าจุดด้วยของกระบอกสูบนิวเมติกแบบสองทางนี้ควรมีการควบคุมหรือระบบควบคุมนิวเมติกที่ได้มาตรฐานกว่ากระบอกลม นิวเมติกแบบทางเดียว

ท้ายที่สุดแล้วถ้าหากคุณต้องการเลือกซื้อกระบอกลม นิวเมติกมาใช้งานแล้ว คุณควรไตร่ตรองโหลดของคุณเหตุว่าต้องการใช้แรงกดดันอากาศมากมายน้อยเพียงใด มีการดีไซน์ระบบควบคุมที่ดีแล้วก็ถูกต้องได้มาตรฐานหรือเปล่า ขนาดของกระบอกสูบนิวเมติกและก็แรงกดดันของ Pneumatic Cylinder ที่อยากได้ซื้อไปนั้นสามารถให้แรงดันที่เพียงพอกับโหลดหรือเปล่า เป็นต้น